คำเตือนเพื่อความปลอดภัยสำหรับเครื่องตัดโลหะ
- ความเร็วรอบกำหนดของอุปกรณ์ประกอบต้องเท่ากับความเร็วรอบสูงสุดที่ระบุไว้บนเครื่องมือไฟฟ้าเป็นอย่างน้อย อุปกรณ์ประกอบที่หมุนเร็วกว่าความเร็วรอบกำหนดของตัวเองอาจแตกและกระเด็นออกเป็นชิ้นๆ
- เส้นผ่าศูนย์กลางรอบนอกและความหนาของอุปกรณ์ประกอบของท่านต้องอยู่ในพิกัดความสามารถของเครื่องมือไฟฟ้าของท่าน อุปกรณ์ประกอบที่ผิดขนาดจะไม่ได้รับการปกป้องและควบคุมอย่างเพียงพอ
- สวมอุปกรณ์ป้องกันเฉพาะตัว ให้ใช้กระบังป้องกันหน้า แว่นตากันลมและฝุ่น หรือแว่นตาป้องกันอันตรายโดยขึ้นอยู่กับลักษณะการทำงาน สวมหน้ากากกันฝุ่น ประกบหูกันเสียงดัง ถุงมือ และผ้ากันเปื้อนสำหรับช่างที่สามารถกันผงขัดหรือเศษชิ้นงานขนาดเล็กตามความเหมาะสม แว่นป้องกันตาต้องสามารถหยุดเศษผงที่ปลิวว่อนที่เกิดจากการทำงานแบบต่างๆ ได้ หน้ากากกันฝุ่นหรืออุปกรณ์ป้องกันระบบหายใจต้องสามารถกรองอนุภาคที่เกิดจากการทำงานของท่านได้ การได้ยินเสียงดังมากเป็นเวลานานอาจทำให้ท่านสูญเสียการได้ยิน
- ดูแลให้บุคคลอื่นๆ ยืนอยู่ในระยะที่ปลอดภัยจากพื้นที่ทำงานของท่าน ทุกคนที่เข้ามาในพื้นที่ทำงานจะต้องสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล สะเก็ดของชิ้นงานหรือของเครื่องมือที่แตกหักอาจปลิวออกมาและทำให้ได้รับบาดเจ็บนอกพื้นที่ทำงานโดยตรง
- นำสายไฟฟ้าออกห่างจากเครื่องมือที่กำลังหมุน หากท่านสูญเสียการควบคุมเครื่อง สายไฟฟ้าอาจถูกตัดขาดหรือถูกเหนี่ยวรั้ง และมือหรือแขนของท่านอาจถูกฉุดเข้าหาเครื่องมือที่กำลังหมุนอยู่
- ทำความสะอาดช่องระบายอากาศของเครื่องมือไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอ พัดลมของมอเตอร์สามารถดูดฝุ่นเข้าไปภายในครอบเครื่อง และการสะสมที่มากเกินไปของโลหะผงอาจก่อให้เกิดอันตรายจากกระแสไฟฟ้า
- อย่าใช้เครื่องมือไฟฟ้าทำงานใกล้วัตถุติดไฟได้ อย่าใช้เครื่องมือไฟฟ้าทำงานในขณะที่วางอยู่บนพื้นผิวที่ติดไฟได้ เช่น ไม้ ประกายไฟสามารถจุดวัสดุเหล่านี้ให้ลุกเป็นไฟ
- อย่าใช้อุปกรณ์ประกอบที่ต้องใช้สารหล่อเย็นที่เป็นของเหลว การใช้น้ำหรือสารหล่อเย็นอื่นๆ ที่เป็นของเหลวอาจทำให้กระแสไฟฟ้าวิ่งผ่านเข้าตัวจนเสียชีวิตหรือถูกไฟฟ้าดูดได้
- ใช้หน้าแปลนยึดที่ไม่เสียหายที่มีขนาดและรูปร่างที่ถูกต้องสำหรับใบเลื่อยที่ท่านเลือกเสมอ หน้าแปลนที่เหมาะสมจะหนุนใบเลื่อยและลดความเสี่ยงที่ใบเลื่อยจะแตกหัก
- ใบเลื่อยและหน้าแปลนต้องเข้ากันพอดีกับแกนของเครื่องมือไฟฟ้าของท่าน เครื่องมือที่ไม่เข้ากันพอดีกับแกนของเครื่องมือไฟฟ้าจะหมุนเสียหลัก สั่นตัวมาก และอาจทำให้สูญเสียการควบคุม
- อย่าใช้ใบเลื่อยที่ชำรุด ตรวจสอบใบเลื่อยเพื่อหารอยบิ่นและรอบแตกก่อนใช้งานทุกครั้ง หากเครื่องมือไฟฟ้าหรือใบเลื่อยตกหล่น ให้ตรวจสอบหาความเสียหายหรือใช้ใบเลื่อยที่ไม่ชำรุด ในขณะที่ท่านตรวจสอบและใส่ใบเลื่อย ต้องกันตัวท่านเองและบุคคลที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงให้ออกห่างจากระนาบใบเลื่อยที่กำลังหมุน และปล่อยเครื่องมือไฟฟ้าให้วิ่งที่ความเร็วสูงสุดหนึ่งนาที ใบเลื่อยที่ชำรุดมักแตกหักในช่วงเวลาการทดสอบนี้
การตีกลับและคำเตือนเกี่ยวเนื่อง
การตีกลับคือแรงสะท้อนกะทันหันที่เกิดจากใบเลื่อยเกิดบิดหรือถูกเหนี่ยวรั้งขณะกำลังหมุน การบิดหรือการเหนี่ยวรั้งทำให้เครื่องมือที่กำลังหมุนหยุดกะทันหัน ด้วยเหตุนี้ชุดขัดเพื่อตัดออกที่ไม่สามารถควบคุมได้จึงถูกเร่งขึ้นไปยังผู้ใช้งานเครื่อง
ต. ย. เช่น หากใบเลื่อยถูกบิดหรือถูกเหนี่ยวรั้ง ขอบของใบเลื่อยที่จิ้มอยู่ในชิ้นงานอาจติดขัด ซึ่งจะทำให้ใบเลื่อยแตกหรือก่อให้เกิดการตีกลีบ ในสถานการณเช่นนี้ใบเลื่อยอาจแตกหักได้ด้วย
การตีกลับเป็นผลจากการใช้เครื่องมือไฟฟ้าอย่างไม่เหมาะสมหรือผิดวิธี ท่านสามารถหลีกเลี่ยงการตีกลับได้ด้วยมาตรการป้องกันไว้ก่อนที่เหมาะสมตามที่ระบุไว้ด้านล่าง
- จับเครื่องมือไฟฟ้าให้แน่น และตั้งตัวและแขนของท่านให้สามารถต้านแรงตีกลับได้ ผู้ใช้งานสามารถควบคุมแรงตีกลับขึ้นหากได้เตรียมตัวป้องกันไว้ก่อนอย่างถูกต้อง
- หลีกเลี่ยงบริเวณด้านหน้าและด้านหลังของใบเลื่อยที่กำลังหมุน หากเกิดการตีกลับ ชุดขัดเพื่อตัดออกจะถูกขับเคลื่อนขึ้นไปยังผู้ใช้งานเครื่อง
- อย่าใช้ใบมีดแกะสลักหรือใบเลื่อยโซ่ รวมทั้งใบตัดเพชรเซ็กเมนต์ที่มีช่องว่างกว้างกว่า 10 มม. เครื่องมือดังกล่าวมักทำให้เกิดการตีกลับหรือทำให้สูญเสียการควบคุมเครื่องมือไฟฟ้า
- หลีกเลี่ยงอย่าให้ใบเลื่อยถูกบล็อกหรืออย่าใช้แรงกดมากเกินไป อย่าตัดลึกเกินไป การใช้งานใบเลื่อยเกินกำลังจะเพิ่มความเครียดและเกิดการบิดเอียงหรือถูกบล็อกได้ง่าย ซึ่งอาจนำไปสู่การตีกลับหรือการแตกหักของใบเลื่อย
- หากใบเลื่อยติดขัดหรือท่านหยุดทำงาน ให้ปิดสวิทช์เครื่องมือไฟฟ้าและจับชุดขัดเพื่อตัดออกให้นิ่งจนกว่าใบเลื่อยจะหยุดสนิท อย่าพยายามดึงใบเลื่อยที่ยังคงวิ่งอยู่ออกจากร่องตัด มิฉะนั้นอาจเกิดการตีกลับ ตรวจสอบและแก้ไขสาเหตุของการติดขัด
- อย่าเปิดสวิทช์เครื่องมือไฟฟ้าอีกครั้งตราบใดที่ใบเลื่อยยังคงอยู่ในชิ้นงาน ปล่อยให้ใบเลื่อยถึงความเร็วสูงสุดก่อนทำการตัดต่อไปอย่างระมัดระวัง มิฉะนั้นใบเลื่อยอาจติดขัด ปีนออกจากชิ้นงาน หรือทำให้เกิดการตีกลับ
- หนุนชิ้นงานที่มีขนาดใหญ่เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดการตีกลับจากการติดขัดของใบเลื่อย ชิ้นงานขนาดใหญ่สามารถโค้งงอได้ตามน้ำหนักของตัวเอง ต้องหนุนชิ้นงานทั้งสองด้านของใบเลื่อย ทั้งใกล้เส้นตัดและที่ขอบ
- หากเป็นไปได้ให้ใช้แคลมป์หนีบชิ้นงานไว้ ในกรณีที่ใช้มือจับชิ้นงาน ท่านต้องเอามือของท่านออกห่างจากใบเลื่อยด้านใดด้านหนึ่งอย่างน้อย 100 มม. อย่าใช้เครื่องเลื่อยนี้ตัดชิ้นงานที่มีขนาดเล็กเกินไปที่ไม่สามารถหนีบด้วยแคลมป์หรือจับด้วยมือได้อย่างแน่นหนา หากมือของท่านอยู่ใกล้ใบเลื่อยเกินไป จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการได้รับบาดเจ็บจากการสัมผัสใบเลื่อย
- ชิ้นงานต้องอยู่กับที่ และถูกยึดหนีบหรือจับทาบกับแผ่นกั้นและโต๊ะ อย่าป้อนชิ้นงานเข้าในใบเลื่อยหรือตัดด้วย “มือเปล่า” อย่างเด็ดขาด ชิ้นงานที่หลุดหลวมหรือเคลื่อนไหวได้จะถูกเหวี่ยงออกมาด้วยความเร็วสูงและทำให้ได้รับบาดเจ็บได้
- ดันเครื่องเลื่อยผ่านชิ้นงาน อย่าดึงเครื่องเลื่อยผ่านชิ้นงาน สำหรับการตัด ให้ยกหัวเครื่องเลื่อยขึ้น และดึงให้อยู่เหนือชิ้นงานโดยไม่ทำการตัด จากนั้นจึงเปิดสวิทช์มอเตอร์ กดหัวเครื่องเลื่อยลง และดันเครื่องเลื่อยผ่านชิ้นงาน การตัดในจังหวะดึงมีแนวโน้มที่จะทำให้ใบเลื่อยปีนขึ้นไปด้านบนของชิ้นงาน และเหวี่ยงชุดใบเลื่อยเข้าหาผู้ใช้งานเครื่องอย่างรุนแรง
- อย่าไขว้มือของท่านเหนือเส้นที่ต้องการตัด ทั้งตรงด้านหน้าและด้านหลังของใบเลื่อย การจับชิ้นงานด้วย “การไขว้มือ” คือ จับชิ้นงานที่อยู่ด้านขวาของใบเลื่อยด้วยมือซ้าย หรือในทางกลับกัน เป็นการกระทำที่อันตรายอย่างยิ่ง
- อย่าเอื้อมมือไปด้านหลังตัวหยุดขณะใบเลื่อยกำลังหมุน อย่ายื่นมือเข้าหาใบเลื่อยที่กำลังหมุนใกล้กว่าระยะปลอดภัย 100 มม. (ใกล้ใบเลื่อยทั้งสองด้าน) ท่านอาจเห็นใบเลื่อยที่กำลังหมุนเข้าประชิดมือของท่านได้ไม่ชัดเจน และอาจได้รับบาดเจ็บสาหัส
- ตรวจสอบชิ้นงานของท่านก่อนทำการตัด หากชิ้นงานบิดหรือโค้งงอ ให้ยึดชิ้นงานโดยจับส่วนที่โค้งงอออกด้านนอกหันเข้าหาแผ่นกั้น ตรวจสอบให้แน่ใจเสมอว่าตามแนวเส้นตัดไม่มีช่องว่างระหว่างชิ้นงาน แผ่นกั้น และโต๊ะ ชิ้นงานที่แอ่นหรือโค้งงออาจบิดหรือเคลื่อนที่ได้ และอาจส่งผลให้ติดขัดอยู่ในใบเลื่อยที่กำลังหมุนในขณะตัด ต้องไม่มีตะปูหรือวัตถุแปลกปลอมในชิ้นงาน
- ใช้เครื่องมือไฟฟ้าเมื่อไม่มีเครื่องมืออยู่บนโต๊ะ ต้องมีเฉพาะชิ้นงานอยู่บนโต๊ะเท่านั้น เศษเล็กๆ หรือวัตถุอื่นๆ ที่สัมผัสกับใบเลื่อยที่กำลังหมุนอาจถูกเหวี่ยงออกไปด้วยความเร็วสูง
- ตัดเพียงหนึ่งชิ้นงานในแต่ละครั้ง ชิ้นงานที่ซ้อนกันหลายๆ ชั้นจะไม่สามารถยึดหรือค้ำยันได้อย่างแน่นหนา และอาจติดขัดบนใบเลื่อยหรือเคลื่อนที่ขณะตัด
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเครื่องมือไฟฟ้าวางอยู่บนพื้นผิวที่ราบเรียบและมั่นคงก่อนใช้งาน พื้นผิวทำงานที่ราบเรียบและมั่นคงช่วยลดความเสี่ยงที่เครื่องมือไฟฟ้าจะสั่นคลอน
- วางแผนการทำงานของท่าน ทุกครั้งที่ท่านเปลี่ยนการตั้งค่ามุมเอียงหรือมุมบาก ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ปรับตั้งแผ่นกั้นแบบปรับได้เพื่อหนุนชิ้นงานอย่างถูกต้องแล้ว และจะไม่กีดขวางใบเลื่อยหรือระบบป้องกัน เมื่อไม่เปิดสวิทช์เครื่อง “ON” และไม่มีชิ้นงานวางบนโต๊ะ ให้จำลองการตัดโดยเคลื่อนใบเลื่อยไปจนสุด ทั้งนี้เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีสิ่งกีดขวางหรืออันตรายจากการตัดถูกแผ่นกั้น
- สำหรับชิ้นงานที่กว้างกว่าหรือยาวกว่าส่วนบนของโต๊ะ ต้องหนุนชิ้นงานอย่างเพียงพอ ต. ย. เช่น ด้วยส่วนขยายโต๊ะหรือม้ารองเลื่อย ชิ้นงานที่ยาวกว่าหรือกว้างกว่าโต๊ะของเครื่องมือไฟฟ้าอาจพลิกคว่ำได้หากไม่ได้รับการหนุนอย่างแน่นหนา หากชิ้นส่วนโลหะที่ถูกตัดออกหรือชิ้นงานคว่ำ ชิ้นงานสามารถยกกระบังป้องกันอันตรายล่างขึ้นหรือถูกเหวี่ยงออกจากใบเลื่อยที่กำลังหมุนอย่างควบคุมไม่ได้
- อย่าใช้บุคคลอื่นทำหน้าที่แทนส่วนขยายโต๊ะหรือเป็นตัวค้ำเพิ่มเติม การหนุนชิ้นงานอย่างไม่มั่นคงอาจทำให้ใบเลื่อยติดขัด หรือใบเลื่อยเคลื่อนที่ขณะตัด ซึ่งจะฉุดรั้งตัวท่านและผู้ช่วยเข้าไปในใบเลื่อยที่กำลังหมุนได้
- ชิ้นส่วนที่ตัดออกจะต้องไม่เข้าไปติดขัดหรือถูกกดอัดกับใบเลื่อยที่กำลังหมุนอย่างเด็ดขาด หากมีพื้นที่จำกัด ต. ย. เช่น เมื่อใช้ก้านหยุดความยาว ชิ้นส่วนที่ตัดออกอาจถูกบีบอัดกับใบเลื่อยและถูกเหวี่ยงออกมาอย่างรุนแรง
- ใช้แคลมป์หรืออุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อยึดจับวัสดุทรงกลม เช่น ก้าน หรือท่อ ให้แน่นหนาเสมอ ก้านกลมมีแนวโน้มที่จะกลิ้งออกไปในขณะถูกตัด ทำให้ใบเลื่อย “ติดแน่น” และดึงชิ้นงานและมือของท่านเข้าไปในใบเลื่อยได้
- ปล่อยให้ใบเลื่อยวิ่งถึงความเร็วสูงสุดก่อนแตะลงบนชิ้นงาน ในลักษณะนี้จะลดความเสี่ยงจากการที่ชิ้นงานจะถูกเหวี่ยงออกไป
- หากชิ้นงานถูกบีบอัดหรือใบเลื่อยถูกบล็อก ให้ปิดสวิทช์เครื่องมือไฟฟ้า รอจนกว่าชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวทั้งหมดจะหยุดสนิท ถอดปลั๊กไฟฟ้าและ/หรือถอดแบตเตอรี่ออก จากนั้นจึงนำวัสดุที่ติดขัดออกมา หากท่านยังคงทำการตัดต่อไประหว่างการบล็อกดังกล่าว อาจส่งผลให้สูญเสียการควบคุมหรือทำให้เครื่องมือไฟฟ้าเสียหายได้
- เมื่อตัดเสร็จแล้ว ให้ปล่อยนิ้วจากสวิทช์ จับหัวเครื่องเลื่อยลง และรอให้ใบเลื่อยหยุดนิ่งอยู่กับที่ก่อนเอาชิ้นงานที่ถูกตัดออกมา การเอื้อมมือของท่านเข้าใกล้ใบเลื่อยที่วิ่งด้วยแรงเฉื่อยเป็นการกระทำที่อันตราย
- จับด้ามจับอย่างแน่นหนาเมื่อทำการตัดที่ไม่สมบูรณ์ หรือเมื่อปล่อยนิ้วจากสวิทช์ก่อนที่หัวเครื่องเลื่อยจะอยู่ในตำแหน่งลงอย่างสมบูรณ์ การเบรคเครื่องเลื่อยอาจทำให้หัวเครื่องเลื่อยถูกดึงลงด้านล่างอย่างกะทันหัน ทำให้เสี่ยงต่อการได้รับบาดเจ็บ
- อย่านำเศษตกค้างจากการตัดหรือสิ่งที่คล้ายกันออกจากบริเวณตัดขณะเครื่องมือไฟฟ้ากำลังทำงาน ต้องนำแขนเครื่องมือกลับไปที่ตำแหน่งกลางก่อนเสมอ และจากนั้นจึงปิดสวิทช์เครื่องมือไฟฟ้า
- เมื่อสิ้นสุดการทำงาน อย่าสัมผัสใบเลื่อยก่อนที่ใบเลื่อยจะเย็นลง ใบเลื่อยจะร้อนขึ้นมากขณะทำงาน
- รักษาสถานที่ทำงานให้สะอาด การผสมผสานของวัสดุเป็นอันตรายอย่างยิ่งฝุ่นละอองโลหะอาจเผาไหม้หรือระเบิดได้
- อย่าใช้ใบเลื่อยที่ทำจากเหล็กกล้ารอบสูง (High Speed Steel, HSS) ใบเลื่อยนี้แตกง่าย
- ตรวจสอบสายไฟฟ้าเป็นประจำ และส่งสายไฟฟ้าที่ชำรุดไปซ่อมแซมที่ศูนย์บริการลูกค้าที่ได้รับมอบหมายสำหรับเครื่องมือไฟฟ้า บ๊อช เท่านั้น เปลี่ยนสายไฟต่อพ่วงที่ชำรุด ในลักษณะนี้ท่านจะแน่ใจได้ว่าเครื่องมือไฟฟ้าอยู่ในสภาพที่ปลอดภัย
- อย่าใช้ใบเลื่อยที่ทู่ แตกร้าว คดงอ หรือชำรุด ใบเลื่อยที่ทู่หรือปรับตั้งไว้ไม่ถูกต้องจะได้รอยตัดแคบ ทำให้มีการเสียดสีมากเกินปกติ ใบเลื่อยติดขัด และเกิดการตีกลับ
- ใช้ใบเลื่อยที่มีขนาดและรูปทรงของรูแกน (สี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนหรือกลม) ที่ถูกต้องเสมอ ใบเลื่อยที่มีขนาดไม่พอดีกับตัวยึดของเครื่องเลื่อยจะวิ่งเยื้องศูนย์ ทำให้เสียการควบคุม
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่ากระบังป้องกันใบเลื่อยทำงานอย่างถูกต้องและเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ อย่าร่นกระบังป้องกันใบเลื่อยและหนีบให้เปิดไว้
- ดูแลพื้นให้ปราศจากเศษโลหะและเศษวัสดุ ท่านอาจลื่นไถลหรือสะดุดได้
- ใช้เครื่องมือไฟฟ้าเฉพาะเมื่อบนพื้นผิวทำงานไม่มีเครื่องมือปรับ เศษโลหะใดๆ ฯลฯ ยกเว้นชิ้นงาน ชิ้นโลหะเล็กๆ หรือวัตถุอื่นๆ ที่เข้าไปสัมผัสใบเลื่อยที่กำลังหมุน อาจตีถูกผู้ใช้งานด้วยความเร็วสูง
- อย่าปล่อยมือจากเครื่องจนกว่าเครื่องจะหยุดสนิทแล้ว เครื่องมือตัดที่ยังวิ่งอยู่อาจทำให้บาดเจ็บได้
- จับใบเลื่อยเข้าหาชิ้นงานเมื่อเครื่องเปิดสวิทช์อยู่เท่านั้น มิฉะนั้นจะเกิดอันตรายจากการตีกลับเมื่อใบเลื่อยเกิดติดขัดอยู่ในชิ้นงาน
- อย่ายืนบนเครื่องมือไฟฟ้าอย่างเด็ดขาด การบาดเจ็บอย่างร้ายแรงอาจเกิดขึ้นได้เมื่อเครื่องมือไฟฟ้าพลิกคว่ำ หรือเมื่อไปสัมผัสกับใบเลื่อยโดยไม่เจตนา
- ใช้เครื่องมือไฟฟ้าสำหรับการตัดแห้งเท่านั้น หากน้ำเข้าในเครื่องมือไฟฟ้า จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการถูกไฟฟ้าดูด
- อย่าทำให้ป้ายเตือนบนเครื่องมือไฟฟ้าลบเลือนอย่างเด็ดขาด
- เครื่องมือไฟฟ้านี้จัดส่งมาพร้อมป้ายเตือนแสงเลเซอร์ (ดูตาราง "สัญลักษณ์และความหมายของสัญลักษณ์")
อย่าเล็งลำแสงเลเซอร์ไปยังคนหรือสัตว์ และตัวท่านเองอย่าจ้องมองเข้าในลำแสงเลเซอร์โดยตรงหรือลำแสงเลเซอร์สะท้อน การกระทำดังกล่าวอาจทำให้คนตาพร่า ทำให้เกิดอุบัติเหตุ หรือทำให้ดวงตาเสียหายได้ |
- อย่าทำการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่อุปกรณ์เลเซอร์ ท่านสามารถใช้การตั้งค่าต่างๆ ที่อธิบายไว้ในคู่มือการใช้งานฉบับนี้ได้อย่างปลอดภัย
- อย่าใช้แว่นสำหรับมองแสงเลเซอร์ (อุปกรณ์เสริม) เป็นแว่นนิรภัย แว่นสำหรับมองแสงเลเซอร์ใช้สำหรับมองลำแสงเลเซอร์ให้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้น แต่ไม่ได้ช่วยป้องกันรังสีเลเซอร์
- อย่าใช้แว่นสำหรับมองแสงเลเซอร์ (อุปกรณ์เสริม) เป็นแว่นกันแดดหรือใส่ขับรถยนต์แว่นสำหรับมองแสงเลเซอร์ไม่สามารถป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ได้อย่างสมบูรณ์ และยังลดความสามารถในการมองเห็นสี
- ข้อควรระวัง - การใช้อุปกรณ์ทำงานหรืออุปกรณ์ปรับเปลี่ยนอื่นๆ นอกเหนือไปจากที่ระบุไว้ในที่นี้ หรือการใช้วิธีการอื่นๆ อาจนำไปสู่การสัมผัสกับรังสีอันตรายได้
- อย่าใช้เลเซอร์ชนิดอื่นแทนที่เลเซอร์ที่ติดตั้งไว้แล้ว เลเซอร์ที่ไม่เหมาะสมกับเครื่องมือไฟฟ้านี้อาจเป็นอันตรายต่อบุคคลได้